ออกกำลังกายด้วยหลัก FITT อย่างมีประสิทธิภาพทำอย่างไร ?

ออกกำลังกายด้วยหลัก FITT อย่างมีประสิทธิภาพทำอย่างไร ?

กิจกรรม ออกกำลังกายด้วยหลัก FITT มีความสำคัญกับทุกคน เพราะในปัจจบันคนมากมาย  เลือกที่จะเข้ายิม หรือออกกำลังกายทั่วไป เพื่อพัฒนาสุขภาพตนเอง วิธีการออกกำลังตามหลักของFITT เป็นที่นิยมมาก เพราะสามารถทำได้ด้วยตนเอง เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน และช่วยให้คนจัดตารางออกกำลังกายได้สะดวก

การออกกำลังกาย หมายถึง การเคลื่อนไหว หรือการทำกิจกรรมที่ใช้กำลัง การเคลื่อนไหว หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน มันจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง , ปรับระบบภูมิคุ้มกัน , และจะมีความสมดุลมากขึ้น สำหรับการออกกำลังกายได้เป็นประจำจะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ยังช่วยพัฒนาระบบหัวใจ ระบบไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้นอีกด้วย 

องค์ประกอบการ ออกกำลังกายด้วยหลัก FITT คืออะไร ?

ออกกำลังกายด้วยหลัก FITT คือ หลักการหนึ่งที่มีประโยนช์ และได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องด้วยจะช่วยจัดตารางออกกำลังกายให้เข้ากับคุณ ทำให้คุณมีสุขภาพดี และร่างกายแข็งแรง จุดมุ่งหมายของหลักการนี้ จะทำให้คุณออกกำลังกายได้อย่างถูกต้องตามหลัก เพื่อสร้างสุขภาพที่ดี และป้องกันการบาดเจ็บ 

หลักการนี้ซึ่งแบ่งรายละเอียดออกตามตัวอักษร สร้างจากคำให้กับทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ความถี่ของการออกกำลังกาย, การออกกำลังกายความหนัก, ระยะเวลาในการออกกำลังกาย และประเภทของการออกกำลังกายดังนี้

Frequency (ความถี่ในการออกกำลังกาย)

ความถี่ที่ดี คือ คุณควรออกกำลังกายอย่างน้อย 5 วันต่อ 1 สัปดาห์ ตามหลักการแล้ว เราไม่ควรที่จะออกกำลังกายทุกวัน เพราะเราควรที่จะให้ร่างกายได้พักบ้าง เพื่อให้ร่างกายของเรานั้นได้มีการ ซ่อมแซม และพักฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง สำหรับเวลาการฟื้นฟูร่างกาย จะใช่เวลาประมาณ 48 ชม. 

แต่ถ้าคุณต้องการที่จะออกกำลังกายหนัก ก็ควรออกอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งจำนวนความถี่ในการออกกำลังกายนั้น ก็จะเป็นการกำหนดระยะเวลา หรือการวางแผนการออกกำลังที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล  

อย่างไรก็ตามดังนั้นเราควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3 – 5 วัน ต่อสัปดาห์ แต่ก็จะขึ้นอยู่กับ ความแข็งแรงของแต่ละบุคคล และที่สำคัญไม่ควรออกกำลังกายถึง 7 วัน ต่อสัปดาห์

Intensity (ความหนักของการออกกำลังกาย)

การดัดแปรความหนักต้องระดับปานกลางถึงหนัก ความหนักควรจะเพียงพอต่อสุขภาพของเรา ตัวอักษร I มาจากคำว่า Intensity หรือเรียกอีกอย่างว่า 

ความหนักของการออกกำลังกาย คือ ความสามารถในการออกกำลังกายที่ร่างกายสามารถทำได้ โดยควรออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งจะอิงจากอัตราการเต้นของชีพจรสำรองของตนเอง 

Time (ระยะเวลาในการออกกำลังกาย)

ตัวอักษรตัว T มาจากคำว่า Time หรือ เรียกง่ายๆว่าเวลาออกกำลังกายในแต่ละครั้งนั้นเอง ซึ่งตำแนะนำ คุณควรมีการกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำไว้อย่างน้อย 30 นาที ไปจนถึง 60 นาทีต่อวัน 

โดยหากเริ่มออกกำลังกาย สามารถแบ่งเป็นเป็นช่วงเวลาได้ โดยเวลาขั้นต่ำของแต่ละช่วง ต้องไม่ต่ำกว่า 10 นาที และต้องมีช่วงเวลาการ พัก ของแต่ละช่วงการออกกำลังกาย

 

Type (ประเภทของการออกกำลังกาย)

Type คือ ชนิดของการออกกำลังกาย การออกกำลังกาย ซึ่งแบ่งออกได้หลายรูปแบบ อาทิเช่น การวิ่ง การเดิน การเต้น การยืดเส้นยืดสาย หรือแม้แต่การทรงตัว ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายได้เหมือนกัน แต่ละแบบมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป สามารถเลือกตามใจชอบกับเป้าหมายได้เลย 

แต่ก็ควรจะออกกำลังกายแบบสลับกันไป เพราะจะทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครบทุกส่วน สำหรับประเภทของการออกกำลังกาย อย่างที่ได้กล่าวไปซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้

          1. Aerobic Exercise หรือ Cardio exercise เป็นการออกกำลังกายที่กระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจเต้นเร็วขึ้น พัฒนาระบบหัวใจไหลเวียนเลือดให้แข็งแรงขึ้น

         2. Strength Exercise หรือ Resistance training เป็นการออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักหรือเครื่องมือช่วยเสริม เพื่อสร้างความแข็งแรงและเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ เกิดการกระชับกล้ามเนื้อและสัดส่วนของร่างกายมากขึ้น

         3. Flexibility Exercise เป็นการเคลื่อนไหวข้อต่อ เพื่อยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ช่วยลดการบาดเจ็บจากการ
ออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกาย ช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

การออกกำลังกายแบบแอโรบิก

การ ออกกำลังกายด้วยหลัก FITT แบบแอโรบิก

การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เป็นกิจกรรมที่เน้นระบบหัวใจ ระบบไหลเวียน เลือด และหายใจ ช่วยให้มันเข้ากันได้ดียิ่งขึ้น การออกกำลังกายช่วยร่างกาย เพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด และลดความเครียด

ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิก 3-5 วันต่อสัปดาห์ ต้องพยายามให้กิจกรรมที่ทำไว้ มากสุดที่ 60-84% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด และอย่างมีความระมัดระวัง 30-45 นาที

  • ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบแอโรบิก

    การออกกำลังกายแบบแอโรบิก ช่วยพัฒนากุมภาพร่างกายหัวใจ ระบบไหลเวียน และหายใจ ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี และช่วยลดไขมันร้ายแคลอรี่ได้อย่างดีด้วย

  • ตัวอย่างกิจกรรมแอโรบิก

    กิจกรรมแอโรบิก รวมถึง การเดิน, การวิ่ง, และ การขี่จักรยาน. การเต้นแอโรบิกเป็นวิธีที่ตั้งส่วนสำคัญในการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ

ฝึกกล้ามเนื้อได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน มันช่วยเพิ่มพลังกายให้กล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้ร่างกายเข้ากับความแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี วิธีการฝึกกล้ามเนื้อที่นิยม มีด้วยกันหลายวิธี เช่น ใช้น้ำหนัก ยางยืด หรือยกน้ำหนัก

  • ประโยชน์ของการฝึกกล้ามเนื้อ

    การฝึกกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ง่าย ทรงตัว ลดความเสี่ยงจากบาดเจ็บ ซึ่งแนะนำให้ออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ หรือตามที่คุณสามารถทำได้ การฝึกนี้มีส่วนช่วยสร้างสุขภาพที่ดี นี่เป็นผลจากกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

  • วิธีการฝึกกล้ามเนื้อ

    การฝึกกล้ามเนื้อมีวิธีมากมาย วิธีไหนก็ได้ มันช่วยเสริมความแข็งแรงต่างออกไป ตามระดับความหนักและเวลาฝึก ตามหลักการFITT ยังช่วยแนะนำให้ออกกำลังกาย 3-7 วันต่อสัปดาห์ แบบแรงและแบบเบาสลับกัน

การออกกำลังกายเสริมการทรงตัว

การออกกำลังกายเสริมการทรงตัว

การออกกำลังกายเสริมการทรงตัว ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ และได้ฝึกสมาธิ จิตใจ เพื่อเสริมการทรงตัวจะช่วยให้ร่างกายมีการทรงตัวได้ดีขึ้นของกล้ามเนื้อ แถมยังช่วยเสริมสร้างบาลานของเรากายได้เป็นอย่างดี และข้อต่อของเรากายให้แข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังป้องกันการหกล้ม ของผู้สูงอายุได้ และการออกกำลังกายแบบนี้ สามารถทำได้บ่อยและฝึกได้เอง

  • ประโยชน์ของการออกกำลังกายเสริมการทรงตัว

    การออกกำลังกายเสริมการทรงตัว เพิ่มความแข็งแรง คล่องแคล่ว ได้สร้างกล้ามเนื้อ ประสานการเคลื่อนไหว ท่าช่วยพัฒนาความสมดุล

  • ตัวอย่างท่าทางการเสริมการทรงตัว

    ตัวอย่างท่าทางการเสริมการทรงตัว คือ ท่ายืนบนขาเดียว แล้วท่าทรงตัวตรง และท่าเดินเส้นตรง แต่ละท่าช่วยเสริมาร้างกล้ามเนื้อ ความสมดุล และควบคุมการทรงตัวของร่างกาย

สรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับการ ออกกำลังกายด้วยหลัก FITT

สำหรับการออกกำลังกายนั้น เราอยากจะช่วยทุกท่านหันมาออกกำลังกายกันเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ระบบหัวใจ และระบบการไหลเวียนเลือดได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย พร้อมทั้งยังสามารถเพิ่มมวลของกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น 

โดยคุณสามารถวางแผนฝึกการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักการของ FITT เพราะจะช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง และลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ จากการออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้องไดอีกด้วย

สุดท้ายนี้ต้องบอกเลยว่า ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ สำหรับใครการหลักการออกกำลังกายนี้ คนที่กำลังวางแผนรักษาหุ่นให้คงที่ อย่าลืมวางแผนการออกกำลังกายอย่างถูกต้องกันได้นะค้าบ เพื่อที่เราจะได้มีร่างกายฟิต เฟิร์ม แข็งแรงอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ทำให้ตนเองต้องบาดเจ็บ พร้อมแล้วไปออกกำลังกายกันได้เลยค้าบบบบบ